อาหารบำรุงสมอง

ในปัจจุบันอาหารถือเป็นอีกอย่างหนึ่งที่มีผลต่อสุขภาพ พ่อแม่ที่มีลูกก็อยากจะให้ลูกของตนเองมีสุขภาพดีซึ่งในสมัยนี้จะมีการผลิตอาหารเสริมมากมายขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างพัฒนาด้านต่างๆของร่างกาย แต่ในความความเป็นจริงแล้วอาหารเสริมไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็น เพียงแต่เราต้องรู้จักการเลือกอาหารให้ถูกต้องเท่านั้นเอง

1.ปลาแซลมอน  
เป็นอาหารที่เหมาะต่อเด็กในวัยเจริญเติบโตช่วยบำรุงสมองและร่างกาย เพราะปลาแซลม่อนอุดมไปด้วยกรดไขมัน , โอเมก้า3, EPA , DHA 


ปลาแซลมอน


2. ไข่  มีโปรตีนมากโดยเฉพาะไข่แดงจะมีโปรตีนเยอะ ซึ่งทานไข่จะช่วยบำรุงสมองและช่วยฟื้นฟูร่างกาย


ไข่

3. เนย จะมีวิตามินเอและสารเลซิดิน ช่วยในการปกป้องระบบประสาท สมอง และเพิ่มความจำได้

เนย

4.ธัญพืช  อาหารเช้าพวกซีเรียลส่วนมากจะมีธัญพืชเป็นส่วนประกอบซึ่งอาหารพวกนี้จะให้พลังงานสูง มีวิตามินบี และบำรุงสมองของเด็กมีส่วนช่วยในความจำ
ธัญพืช


5.ข้าวโอ๊ต  มีวิตามิน B , โพแทสเซียม , สังกะสี ซึ่งถ้ารับประทานเป็นประจำจะทำให้ร่างกายและสมองทำงานได้อย่างเหมาะสม
ข้าวโอ๊ต

6.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่  อุดมไปด้วยวิตามินC , โอเมก้า3 ช่วยใรเรื่องความจำและระบบประสาทสมอง

เบอร์รี่

7.ถั่ว เป็นแหล่งโปรตีนและคาร์โบไฮเดต ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ช่วยเสริมความจำ บำรุงสมอง 


ถั่ว

8.ผักสีสด  จะมีวิตามินอยู่มากและมีแร่ธาตุ ซึ่งมีส่วนช่สยในการพัฒนาระบบภูมิคุ้มกัน

ผัก

9.นมหรือโยเกิร์ต  ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมีส่วนช่วยพัฒนาสมองและเอนไซม์ เป็นอาหารที่จำเป็นต่อเด็กมาก

โยเกิร์ต

10.เนื้อไม่ติดมัน  เนื้อสัตว์จะมีเกลือแร่ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็ก หากทานเนื้อสัตว์ที่ติดมันมากเกินก็อาจจะทำให้เกิดโรคต่างๆตามมาได้
เนื้อ

รู้จริงเรื่องอาหารเสริม


               การให้เด็กกินนมอย่างเดียวอาจจะไม่พอต่อความต้องการของร่างกาย จึงต้องมีการให้อาหารเสริมเพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีต่อเด็ก อาหารที่เพียงพอนั้นจะช่วยทำให้เด็กเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่และทั้งร่างกายและสมอง


อาหารเสริม ? 

             (ผิด) บางคนอาจคิดว่าอาหารเสริมคือทุกอย่างที่ลูกกินไปแล้วจะไปเสริมให้มีสุขภาพดี ซึ่งจะให้กินเพิ่มจากอาหารที่เราให้กินตามปกติ ในความเป็นจริงนั้นอาหารที่ได้รับเข้าไปอาจจะมากเกินและไม่เหมาะสมกับวัยของเด็ก


             (ถูก) ความจริงแล้วอาหารเสริมนั้น คือ อาหารที่ลูกได้รับนอกจากนมแม่หรือนมชง เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วนที่จำเป็นต่อร่างกาย

               นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกในวัย 4-6เดือน ซึ่งปริมาณสารอาหารจากนมเริ่มไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นการที่จะให้อาหารเสริมที่ดีมีคุณภาพและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อลูกน้อย พ่อแม่จึงต้องให้ความใส่ใจเรื่องคุณภาพและปริมาณพื่อให้เหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของลูก


ให้อาหารเสริมบางอย่างเร็วเกินไป

             (ผิด) หมอเด็กหลายท่านเคยเล่าให้ฟังว่า เคยรักษาเด็กทารกที่พ่อแม่พามาหาหมอด้วยอาการปวดท้อง ตรวจไปตรวจมาพบว่าลำไส้และกระเพาะเต็มไปด้วยกล้วยน้ำว้า ถามได้ความว่าแม่เล่นป้อนกล้วยให้ลูกกินตั้งแต่เดือนกว่า ๆ ซึ่งเป็นเวลาที่ยังไม่เหมาะจะให้กินกล้วย เพราะระบบการย่อยของลูกยังย่อยอาหารอื่นที่นอกเหนือจากนมยังไม่ได้ กล้วยที่ถูกป้อนไปก็อัดแน่นอยู่ในท้อง ไม่ย่อย ท้องลูกทั้งแข็ง ทั้งป่อง และลูกร้องโยเยจนต้องพามาหาหมอ  หรือบางรายให้ลูกกินไข่ขาวพร้อม ๆ กับป้อนไข่แดงเมื่อลูกอายุ 4 เดือน ทำให้ลูกเกิดอาการแพ้ ระบบย่อยอาหารของลูกจะย่อยโปรตีนในไข่ขาวได้ง่ายเมื่ออายุ 7 เดือนขึ้นไปค่ะ

             (ถูก) การให้อาหารเสริมควรให้เมื่อลูกน้อยพร้อมที่จะรับ คือเมื่อระบบทางเดินอาหาร ไต ประสาท และกล้ามเนื้อได้พัฒนาจนสามารถพร้อมที่จะทำหน้าที่แล้ว



ครูดกล้วยให้ลูกไม่ถูกหลัก

             (ผิด) พ่อแม่บางคนหาความรู้มาอย่างดีว่า เวลาไหนควรให้ผลไม้อย่างกล้วยกับลูกได้ (4 เดือนเป็นต้นไป) เมื่อถึงเวลาก็จัดการป้อนกล้วยให้ลูก ปรากฏว่าลูกท้องผูกอย่างแรง ดูไปดูมาก็พบว่าแม่ครูดกล้วยป้อนลูกไปทั้งลูกเลย

             (ถูก) เด็กบางคนกินกล้วยแล้วอาจท้องผูก แต่บางคนก็ไม่ ถ้าหากกินกล้วยแล้วท้องผูก ลองสำรวจดูซิว่าแม่ครูดเอาไส้กล้วยให้ลูกกินด้วยหรือเปล่า การครูดกล้วยให้ลูกนั้น ต้องครูด เอาเฉพาะเนื้อ ไม่ต้องเสียดายแกน ทิ้งไปได้เลย เพราะย่อยยาก

คิดว่า..กล้วยอย่างเดียวดีที่สุด

             (ผิด) พ่อแม่บางคนเข้าใจว่าผลไม้ที่ควรให้เป็นอาหารเสริมลูกนั้น เป็นกล้วยอย่างเดียว (ก็ตำราว่าอย่างนั้นนี่) (ถูก) ที่มีการแนะนำให้ให้กล้วย อาจเป็นเพราะกล้วยเป็นผลไม้ราคาถูก หาง่าย

             จริง ๆ แล้วบ้านเรามีผลไม้อีกหลายชนิดที่สามารถมาครูดให้ลูกกินได้ ไม่ว่าจะเป็นมะละกอ ฝรั่ง (บดละเอียด) เครื่องนึ่งปั่นอาหารอเนกประสงค์ จะเป็นตัวช่วยในการทำอาหารสำหรับลูกน้อยไม่ว่าจะเป็นบด นึ่ง ปั่น สับอาหาร อุ่นนม/อาหาร ฆ่าเชื้อโรคขวดนมได้ในเครื่องเดียว เพิ่มความสะดวกให้แก่คุณแม่











บทความ อาหารเด็กอ่อน

อาหารเด็กอ่อนในวัย 9-12 เดือน สำหรับมื้อกลางวันก็ยังต้องเป็นข้าว แต่ไม่ต้องบดให้ละเอียดจนเหลว ให้เตรียมอาหารที่เคี้ยวง่าย นิ่ม ๆ ให้เด็ก ถ้าเป็นข้าวก็ไม่ต้องบดแล้ว ให้ต้มนิ่ม ๆ เป็นการฝึกให้เด็กเริ่มกินอาหารหยาบ อาหารเด็กอ่อนทีมีลักษณะเป็นอาหารหยาบ ต้องค่อย ๆ ปรับความหยาบของอาหารให้เหมาะสมกับความสามารถในการเคี้ยวของเด็ก ช่วงวัย 9-12 เดือนนี้สามารถเริ่มดัดแปลงอาหารเด็กอ่อนให้มีความหลากหลายได้ตามใจชอบเน้นที่ความหลากหลายของอาหารให้เด็กได้ลองกินอาหารหลาย ๆ อย่าง ใหม่ ๆ ตามด้วยผลไม้นิ่ม ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเละเหมือนอาหารในช่วงวัยก่อนหน้านี้ ควรระวังเรื่องการให้ผลไม้ที่มีเมล็ดเช่น องุ่น ต้องแกะเมล็ดออกให้หมดก่อนและต้องหั่นครึ่งหรือหั่นเป็น 4 ส่วนก็ได้

อาหารเด็กอ่อนวัย 9-12 เดือนในมื้อบ่าย ก็ให้เป็นของว่างเหมือนเดิม(วัย 7-8 เดือน)โดยให้พร้อมกับนมในมื้อบ่ายเช่น คุกกี้ที่มีขนาดชิ้นพอดีคำ เพื่อฝึกให้เด็กใช้กล้ามเนื้อนิ้วหยิบคุกกี้เข้าปาก ส่วนอาหารเด็กอ่อนในมื้อเย็นก็จัดเหมือนอาหารในมื้อกลางวัน โดยยึดหลักเหมือนเดิมคือ หาผักและเนื้อสัตว์ชนิดใหม่ ๆ ที่เด็กไม่เคยกินมาเพิ่มความหลากหลายให้กับอาหารเด็กอ่อนในมื้อเย็น

การเก็บรักษาอาหารเด็กอ่อน ในกรณีที่คุณพ่อและคุณแม่ไม่ค่อยมีเวลาในการปรุงอาหารเด็กอ่อนแบบปรุงสด ๆ ทุกมื้อ อาจทำอาหารเพียงครั้งเดียวในปริมาณที่มากหน่อยแล้วแบ่งตามปริมาณการใช้ในแต่ละครั้ง แล้วแช่แข็งเก็บไว้ในตู้เย็น พอจะใช้ก็นำอาหารที่แช่แข็งไว้ออกมาอุ่นได้ไม่ควรแช่แข็งอาหารนานเกินการอุ่นอาหารเด็กอ่อนที่แช่แข็งไว้ ให้นำอาหารที่แช่แข็งไว้ออกมาก่อนเวลาที่จะใช้ประมาณ 30 นาที แช่ในน้ำร้อนหรือนึ่งก็ได้ แล้วค่อยอุ่นให้ได้อุณหภูมิที่พอดี ห้ามอุ่นอาหารเด็กอ่อนที่แช่แข็งด้วยเตาไมโครเวฟเพราะจะทำให้อาหารร้อนไม่ทั่วถึง อุณหภูมิของอาหารที่ไม่ร้อนเกินไปสามารถทดสอบได้โดยการลองเหยาะอาหารลงบนข้อมือด้านในที่มีผิวอ่อน

คำแนะนำอื่น ๆ เรื่องอาหารเด็กอ่อนคือ ให้ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนปรุงอาหารเด็กอ่อนเพราะความสะอาดเป็นเรื่องที่สำคัญมากต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อาหารที่เด็กกินเหลือแล้วไม่ควรนำมากินในมื้อต่อไป สัดส่วนระหว่างเนื้อ-ผัก กับ ข้าว(แป้ง) ควรเป็น ครึ่งต่อครึ่ง (50 – 50 ) ถ้าให้โปรตีน(เนื้อสัตว์)แก่เด็กมากไปจะทำให้ระบบย่อยอาหารของเด็กต้องทำงานหนักเกินไป ให้เด็กดื่มน้ำเยอะๆ เพราะน้ำจะเป็นประโยชน์กับร่างกายอย่างที่คุณคาดไม่ถึง ถ้าซื้ออาหารเด็กอ่อนแบบสำเร็จรูปจากซุปเปอร์มาร์เก็ตให้เลือกที่มีส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติมากที่สุดและมีสารสังเคราะห์ น้ำตาล หรือไขมันตกค้างให้น้อยที่สุด.

         

      เครื่องนึ่งปั่นอาหารอเนกประสงค์ 5 in 1 

            "ตัวช่วยในการทำอาหารสำหรับลูกน้อย"